การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม คืออะไร? มีสมรรถนะสำคัญอะไรบ้าง?

การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม


“เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดแค่เพียงด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังต้องครอบคลุมด้านอารมณ์และสังคมอีกด้วย” นี่คือแก่นแท้ของการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (Social and Emotional Learning; SEL) ที่กำลังได้รับความสำคัญในระดับโลก

— SELminder


Social and Emotional Learning หรือ SEL คือ กระบวนการเรียนรู้และพัฒนา ความรู้ (knowledge), ทักษะ (skills) และเจตคติ (attitudes) ทั้งทางด้านอารมณ์และสังคม ที่ส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ การใช้ชีวิต และการทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างมีคุณภาพ

แนวคิด SEL ได้รับการพัฒนาและสนับสนุนโดยองค์กร CASEL (Collaborative for Academic, Social, and Emotional Learning) ซึ่งระบุว่า SEL เป็นการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ (lifelong learning)

“SEL is the process through which all young people and adults acquire and apply the knowledge, skills, and attitudes to develop healthy identities, manage emotions, achieve goals, show empathy for others, establish relationships, and make responsible decisions.”
CASEL (https://casel.org/)

ซึ่งในกระบวนการการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (Social and Emotional Learning; SEL) ก็สามารถแยกย่อยออกเป็น 2 มิติสำคัญ ได้แก่

  1. ทักษะทางอารมณ์ (Emotional) คือ ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์-ความคิดตนเอง (Self-awareness) ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของตนเอง (Self-management) และความสามารถในการรับผิดชอบในสิ่งตนเองได้ตัดสินใจ (Responsible decision-making)
  2. ทักษะทางสังคม (Social) หมายถึง ความสามารถในการรับรู้และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Social awareness) ความสามารถในการสื่อสารหรือปฏิสัมพันธ์ทั้งทางคำพูดและไม่ใช่คำพูด (Relationship Skills) 

ดังนั้น – เราจึงสามารถสรุปเป็นข้อความสั้นๆ ง่ายๆ ได้คือ  “Social and Emotional Learning คือ กระบวนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทั้งทางอารมณ์และสังคม ของคนวัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่” นั่นเอง


เจาะลึก 5 Core Competencies ของ SEL

การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (social and emotional learning; SEL) โฟกัสที่ 5 สมรรถนะสำคัญในการพัฒนาบุคคลให้มีความโดดเด่นทั้งด้านวิชาการ ด้านอารมณ์ และด้านสังคม ได้แก่

  1. การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness)
  2. การจัดการตนเอง (Self-management)
  3. การตระหนักรู้ทางสังคม (Social awareness)
  4. การสร้างความสัมพันธ์ (Relationship skills)
  5. การตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ (Responsible decision-making)


การตระหนักรู้ภายในตนเองเป็นรากฐานของการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (foundation of SEL) คือ ความสามารถเข้าใจอารมณ์ ความคิด และค่านิยมของตัวเอง รวมทั้งเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อพฤติกรรมอย่างไร —บุคคลที่มีการตระหนักรู้ตนเองสูงจะสามารถระบุสิ่งกระตุ้นอารมณ์ตนเองได้ (triggers) รวมทั้งรู้จักจุดแข็งและข้อจำกัดของตัวเอง มีความมั่นใจ และรู้เป้าหมายชีวิต

  • รับรู้อารมณ์และระบุความรู้สึกของตัวเอง
  • ระบุจุดแข็ง จุดอ่อน และคุณค่าภายใน
  • เชื่อมโยงอารมณ์ ความคิด และการกระทำ
  • ส่งเสริม Growth Mindset และความมั่นใจในตนเอง

กลยุทธ์ส่งเสริมการตระหนักรู้ตนเอง:

  • จดบันทึกสะท้อนตนเอง (self-reflection journal): การสะท้อนอารมณ์ ความคิด และประสบการณ์ผ่านการเขียนบันทึกประจำวันหรือประจำสัปดาห์
  • ฝึกสติ/สมาธิ (mindfulness): การฝึกสมาธิ หรือการกลับมารู้ลมหายใจ ช่วยให้คุณมีสติมากขึ้นและสัมผัสกับสภาวะภายในของตนเอง
  • สำรวจจุดแข็งของตนเอง: การรับรู้จุดแข็งและพรสวรรค์ของตนจะเสริมสร้างความมั่นใจและความเข้าใจในตนเอง

การบริหารจัดการตนเองสร้างขึ้นจากการตระหนักรู้ตนเอง (ถ้ายัง aware ตนเองไม่ได้ จะ manage ตนเองได้อย่างไร…?) คือ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของตัวเองในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งส่วนตัวและเป้าหมายของกลุ่ม —ผู้ที่มีทักษะการจัดการตนเองสูงจะสามารถมีสมาธิจดจ่อ เผชิญกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความอดทนต่อความท้าทายต่างๆ

  • จัดการความเครียดและอารมณ์
  • แสดงพฤติกรรมเชิงบวก
  • วางแผนและตั้งเป้าหมาย
  • มีความพากเพียรและวินัยในตนเอง

กลยุทธ์ในการส่งเสริมการบริหารจัดการตนเอง:

  • การตั้งเป้าหมาย: ช่วยพัฒนาเป้าหมาย SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant และ Time-bound)
  • การจัดการความเครียด: การกลับมารับรู้ลมหายใจเป็นเทคนิคการผ่อนคลายที่ช่วยจัดการกับความเครียด
  • การจัดการเวลา: กลยุทธ์ในการจัดการเวลาเพื่อจัดลำดับความสำคัญของงาน ทำงานให้ทันกำหนดเวลา และหลีกเลี่ยงการประวิงเวลา

การตระหนักรู้ทางสังคม คือ ความสามารถในการเข้าใจมุมมองและความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งรวมถึงการรับรู้สัญญาณทางสังคม ชื่นชมความหลากหลาย และเข้าใจประสบการณ์ของผู้อื่น —ผู้ที่มีความสามารถในการตระหนักรู้ทางสังคมที่สูงจะส่งเสริมความเห็นอกเห็นใจ ความเคารพ และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเชิงบวก

  • เห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy)
  • เข้าใจบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่หลากหลาย
  • แสดงความเคารพและขอบคุณ
  • ตระหนักถึงความยุติธรรมในสังคม

กลยุทธ์ในการส่งเสริมการตระหนักรู้ทางสังคม:

  • กิจกรรมแสดงบทบาท (role-play): การแสดงบทบาทหรือการอภิปรายกลุ่มที่สนับสนุนให้เกิดการมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองที่แตกต่าง
  • กิจกรรมถกปัญหาทางสังคมร่วมกัน: เพื่อแบ่งปันมุมมองความคิด และได้ฝึกเรียนรู้มุมมองที่แตกต่างหลากหลาย
  • สนับสนุนการทำกิจกรรมอาสา (community service): สนับสนุนการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมต่างๆ

ทักษะด้านความสัมพันธ์ คือ ความสามารถในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดี การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การรับฟังอย่างตั้งใจ การแก้ไขความขัดแย้ง และการทำงานเป็นทีม ทักษะความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน

  • ฟังอย่างตั้งใจและสื่อสารชัดเจน
  • ทำงานเป็นทีม แก้ปัญหาร่วมกัน
  • แก้ไขข้อขัดแย้งด้วยสันติ
  • เคารพความหลากหลายและช่วยเหลือเมื่อจำเป็น

กลยุทธ์ในการส่งเสริมทักษะความสัมพันธ์:

  • กิจกรรมการสื่อสาร: กิจกรรมที่ส่งเสริมการรับฟังอย่างตั้งใจ การสื่อสารที่ชัดเจน และการปฏิเสธอย่างสุภาพ
  • การฝึกเป็นผู้นำหรือผู้ช่วยผู้อื่น: ฝึกใช้เทคนิคการเป็นตัวกลางเพื่อช่วยแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสันติและเคารพซึ่งกันและกัน
  • การแก้ปัญหาเป็นทีม (project-based learning): สร้างโอกาสให้ได้ทำงานร่วมกันในโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมทักษะการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร

คือ ความสามารถในการตัดสินใจเลือกพฤติกรรมอย่างพิจารณาผลที่จะเกิดขึ้นต่อตนเอง ผู้อื่น และส่วนรวม บนมาตรฐานทางจริยธรรม ความปลอดภัย และการประเมินสถานการณ์ พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น —ผู้ที่มีความสามารถในการตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ มักจะตัดสินใจที่สอดคล้องกับค่านิยมส่วนตน (personal values) ความสามารถนี้ช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความท้าทาย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีต่อตนเองได้

  • ระบุปัญหาและวิเคราะห์ทางเลือก
  • คาดการณ์ผลลัพธ์ก่อนตัดสินใจ
  • ใช้ค่านิยมเป็นแนวทางในการตัดสินใจ
  • รับผิดชอบต่อผลของการกระทำ

กลยุทธ์ในการส่งเสริมการตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ:

  • ฝึกคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking)
  • ใช้สถานการณ์จำลองในการตัดสินใจ (decision-making scenarios)
  • การสะท้อนผลจากทางเลือกที่เคยทำ

📌 สรุปส่งท้าย: SEL = พื้นฐานของการพัฒนา “ทุกคน” ไม่ใช่แค่ “นักเรียน”

การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (SEL) ไม่ใช่แค่แนวทางการเรียนการสอน แต่เป็น “ทักษะชีวิต” ที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ การมีความสัมพันธ์ที่ดี และการเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ SEL จึงควรเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน บ้าน และชุมชน

SEL คือกระบวนการสร้าง “มนุษย์ที่มีหัวใจ” และพร้อมเติบโตอย่างมั่นคงทั้งด้านในและด้านนอก


 
References:
https://casel.org/fundamentals-of-sel/
https://www.futurelearn.com/info/blog/what-is-social-emotional-learning

Picture of Armer Khanachang

Armer Khanachang

Founder at SELminder,

Share to

Related Posts

บทความล่าสุด

คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต?

การอยู่กับปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่า “ห้ามคิดถึงอดีตหรืออนาคต” แต่หมายถึงการแยกแยะให้ชัดเจน ระหว่างด้านจิตใจ กับด้านปัญญา

7 โซน Body Scan

ถ้าเราสามารถรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เราก็จะสามารถจัดการกับอารมณ์และความคิดของเราได้ทันท่วงที

10 วิธีใจดีแบบมีขอบเขต

10 วิธีใจดีแบบมีขอบเขต ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “วิธีการ” ที่ใช้กับคนอื่น แต่เป็น “การฝึกฝน” ที่เริ่มต้นจากตัวเราเองก่อน