
เมื่อโกรธ – เราอาจรู้สึกโกรธได้ แต่ไม่ควรทำร้ายคนอื่น
เมื่อเสียใจ – เราอาจร้องไห้ได้ แต่ไม่ควรทำร้ายตัวเอง
เมื่อผิดหวัง – เราอาจรู้สึกท้อได้ แต่ไม่ควรระบายอารมณ์ใส่คนรอบข้าง
เปรียบเหมือนเรามีแขกมาเยี่ยมบ้าน (ความรู้สึกที่เกิดขึ้น)
แม้บางครั้งแขกอาจจะมาไม่ถูกเวลา หรือสร้างความวุ่นวายบ้าง
แต่ในฐานะเจ้าบ้าน เราก็ยังคงต้องรักษามารยาทที่ดีไว้ (การแสดงออก)
เพราะนั่นคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนข้างใจของตัวเรา
(Self-awareness)

ห้องมืด เปรียบเสมือนจิตใจที่ยังไม่เข้าใจตนเอง
→ มองไม่เห็นว่าเราอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร
→ ไม่รู้ว่าความคิดแบบไหนกำลังผลักดันพฤติกรรมของเรา
→ ไม่เห็นคุณค่า จุดแข็ง หรือความสามารถตนเอง
เมื่อเปิดไฟ คือ เริ่มเกิดการตระหนักรู้ในตนเอง
→ เรามองเห็นอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
→ เข้าใจว่าจุดแข็งของเราคืออะไร และเรากำลังต้องพัฒนาจุดใด
→ รู้ว่าอะไรคือคุณค่าและความเชื่อที่สำคัญในชีวิตเรา
→ เริ่มเห็นความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เรารู้สึก กับสิ่งที่เราทำ

เปรียบเปรยที่ว่า “การพยายามเป็นคนใจเย็นเหมือนเอาฝาชีครอบหม้อแกงร้อน ๆ” สะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนว่า แม้ภายนอกจะดูสงบ แต่ภายในอาจมีความร้อนแรงของอารมณ์ที่ยังไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมอยู่
หลายครั้งเราเลือกที่จะไม่ระบายอารมณ์ออกมา..
แต่เลือก “กดทับ” (suppress) อารมณ์นั้นไว้โดยไม่รู้ตัวว่า “ตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไร…?” อาจจะด้วยเพราะ
→ กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับอารมณ์
→ พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
→ หรือไม่มีเทคนิคที่เหมาะสมในการจัดการอารมณ์ภายใน
ผลลัพธ์ของการกดทับอารมณ์อย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เกิด:
อารมณ์สะสม → ความเครียดเรื้อรัง → พฤติกรรมเชิงลบปะทุออกมา
เปรียบเสมือนการ “เอาฝาชีครอบหม้อแกงร้อน” ซึ่งไม่ใช่การควบคุมที่แท้จริง แต่เป็นการปิดครอบอัดแน่นกดทับเอาไว้ จนเกิดความร้อนสะสมภายใน ดังนั้น การมี Self-awareness จะช่วยให้เรากลับมาสังเกตว่า “เรากำลังไหม้ข้างในอยู่หรือเปล่า?” ผ่านการระบุชื่ออารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้น