7 สเตจอารมณ์เมื่อชีวิตเปลี่ยน

7 สเตจอารมณ์เมื่อชีวิตเปลี่ยน


ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตเรา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าทุกการเปลี่ยนแปลงมักนำพาความรู้สึกปั่นป่วนวุ่นวายใจมาเยือนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานที่ต้องปรับตัวเข้าสู่องค์กรใหม่ ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับคนสนิท หรือการเปลี่ยนแปลงภายในครอบครัว ทุกคนต่างมีเส้นทาง “ทางอารมณ์” ที่ต้องเผชิญในช่วงเปลี่ยนผ่าน

หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจ “อารมณ์” เหล่านี้ได้ดีขึ้นก็คือ Kübler-Ross Change Curve หรือเส้นโค้งการเปลี่ยนแปลงของคูเบลอร์-รอสส์ ซึ่งดั้งเดิมพัฒนามาจากแนวคิดเรื่อง “ทฤษฎี 5 ระยะของความโศกเศร้า” แต่ในปัจจุบันได้ถูกขยายความให้เหมาะกับ “การเปลี่ยนแปลง” ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นความสูญเสียเพียงอย่างเดียวแล้ว

สิ่งผมสนใจคือ ถ้าเรานำโมเดลนี้มาประยุกต์เข้ากับกรอบแนวคิด SEL (Social and Emotional Learning) โดยเฉพาะสามทักษะหลัก อันได้แก่

  • การรู้จักและเข้าใจตัวเอง (Self-Awareness)
  • การจัดการอารมณ์ของตัวเอง (Self-Management)
  • การตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Decision-Making)

จะสามารถช่วยให้เรา “ก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงและเติบโตด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง” มากน้อยเพียงใด!?


อลิซาเบธ คูเบลอร์-รอสส์ จิตแพทย์ผู้บุกเบิกการศึกษาด้านการรับมือกับการสูญเสีย ได้นำเสนอโมเดลที่แสดงให้เห็นถึงห้วงอารมณ์ที่มนุษย์ต้องเผชิญเมื่อพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยต้นฉบับเดิมมักใช้กับ กระบวนการโศกเศร้า (grief) ที่เกิดจากการสูญเสีย เช่น การเสียชีวิตของคนรัก แบ่งเป็น 5 ระยะ ได้แก่ Denial –ปฏิเสธ Anger –โกรธ Bargaining –ต่อรองDepression –ซึมเศร้า และ Acceptance –ยอมรับ

ต่อมานักวิชาการด้านจิตวิทยา การบริหาร และการเปลี่ยนแปลงองค์กร (change management) ได้นำโมเดลนี้ไป ปรับใช้กับบริบทอื่นๆ โดยเฉพาะในแวดวง การเปลี่ยนแปลงชีวิตหรือการทำงาน แล้วขยายความให้เหมาะกับ “การเปลี่ยนแปลง” ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นความสูญเสียเพียงอย่างเดียว จึงเกิดเวอร์ชัน 7 ระยะขึ้นมา ที่สามารถนำไปใช้ในบริบทที่กว้างขึ้นได้ เช่น โรงเรียน, องค์กร, ชุมชน, หรือการสอนเกี่ยวกับ SEL/การเปลี่ยนแปลงทั่วไป

7 สเตจอารมณ์เมื่อชีวิตเปลี่ยน


🔴 Shock: ความรู้สึกช็อกและมึนงง

“นี่มันเกิดขึ้นจริงเหรอ?” —เป็นช่วงที่ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเต็มที่ เหมือนสมองกำลังพยายามรับข้อมูลเข้าอย่างช้าๆ ➾ ลักษณะเด่น: มึนงง ทำอะไรไม่ถูก พูดซ้ำๆ ว่า “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”

🔴 Denial: ไม่ยอมรับความจริง

“คงไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก เดี๋ยวมันก็กลับมาเหมือนเดิม” —สมองพยายามปกป้องตัวเองจากความจริงที่เจ็บปวด ➾ ลักษณะเด่น: ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง ทำเหมือนทุกอย่างปกติ หรือหวังให้มันย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิม

🔵 Frustration: หงุดหงิด โกรธ ไม่เข้าใจ

“ทำไมต้องเปลี่ยนด้วย? ใครเป็นคนตัดสินใจแบบนี้?” —เริ่มตระหนักว่าสถานการณ์เปลี่ยนจริง และอาจเริ่มรู้สึกโกรธหรือต่อต้าน ➾ ลักษณะเด่น: ไม่พอใจ ตั้งคำถาม เริ่มพูดถึง “สิ่งที่เคยเป็น”

🔵 Depression: เศร้า เหงา หมดแรง

“ไม่มีอะไรจะดีขึ้นหรอก…” —ความรู้สึกเศร้าอาจกลับมาซ้ำได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก ➾ ลักษณะเด่น: หมดพลัง เบื่อหน่าย ไม่เห็นทางออก

🟡 Experiment: ลองปรับ ลองผิดลองถูก

“ถ้าลองทำแบบนี้ล่ะ จะโอเคไหม?” —เริ่มทดลองหาวิธีใหม่ในการใช้ชีวิตหรือทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ➾ ลักษณะเด่น: เปิดรับไอเดียใหม่ เริ่มมีพลังในการจัดการกับชีวิตอีกครั้ง

🟡 Decision: เริ่มเห็นทาง เริ่มตัดสินใจ

“ฉันเลือกทางนี้แล้ว และฉันรู้ว่าทำไม” —เริ่มมีแนวทางที่ชัดเจนว่าควรปรับตัวอย่างไร และรู้สึกดีขึ้นกับตัวเอง ➾ ลักษณะเด่น: มีพลัง มีจุดยืน มีการตัดสินใจที่แน่วแน่

🟡 Integration: ผสานความเปลี่ยนแปลงสู่ตัวตนใหม่

“ตอนนี้ฉันเข้าใจและอยู่กับมันได้แล้ว” —ความเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป เพราะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ➾ ลักษณะเด่น: สงบ มั่นคง รู้สึก “เป็นตัวของตัวเอง” ในบริบทใหม่


โมเดล Kübler-Ross Change Curve ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ที่มักต้องดำดิ่งลงสู่ห้วงอารมณ์ด้านลบก่อนจะสามารถปีนขึ้นสู่การยอมรับและปรับตัวได้ เมื่อผสานกับหลักการเรียนรู้ทางสังคมและอารมณ์ (SEL) เราจะมีเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้ทุกคนสามารถนำทางตนเองผ่านพายุอารมณ์เหล่านี้ได้อย่างมีสติและเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

ทักษะแรกที่สำคัญมากในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงก็คือ “การตระหนักรู้ตัวเอง” โดยเฉพาะในช่วงที่เรากำลัง “ช็อก” หรือ “โกรธ” เพราะอารมณ์พุ่งสูงขึ้น จนอาจไม่ทันตระหนักว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่กันแน่ แค่รู้ว่า “ไม่โอเคเลยตอนนี้!!”

การเรียนรู้ที่จะสำรวจและระบุอารมณ์ตัวเองเป็นก้าวแรกที่จะทำให้เราตระหนักว่า ความรู้สึกเหล่านี้เป็นเพียง “แขกผู้มาเยือนชั่วคราว” ไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่กับเราตลอดไป และเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์มนุษย์ที่ใครๆ ก็ต้องเผชิญ

ตัวอย่างกิจกรรมเสริมสร้าง Self-Awareness:

  • วงล้ออารมณ์ (Emotion Wheel) – เครื่องมือที่ช่วยให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถระบุความรู้สึกของตัวเองได้อย่างแม่นยำและลึกซึ้งยิ่งขึ้น แทนที่จะบอกเพียงว่า “รู้สึกแย่” จะสามารถแยกแยะได้ว่าเป็น “ความกังวล” “ความผิดหวัง” หรือ “ความสับสน”
  • บันทึกความรู้สึกประจำวัน – การจดบันทึกคำถามสำคัญเช่น “วันนี้ฉันรู้สึกอย่างไร?” “อะไรกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกนี้?” และ “ฉันแสดงออกต่อความรู้สึกนี้อย่างไร?” จะช่วยสร้างแผนที่อารมณ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • วงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ – การเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคนได้แชร์ความรู้สึกต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง นอกจากจะช่วยให้เข้าใจตัวเองมากขึ้นแล้ว ยังสร้างความรู้สึกว่า “เราไม่ได้เผชิญสิ่งนี้เพียงลำพัง”

การฝึก Self-Awareness เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าใจว่าความรู้สึกที่กำลังเผชิญอยู่ “มันไม่ถาวร” และ “มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน” (temporary —not permanent.)

เมื่อเราเข้าสู่ช่วงดำดิ่ง “ซึมเศร้า” หรือ “หมดแรง” ทักษะ Self-Management คือแสงสว่างที่ช่วยประคับประคองใจ ไม่ให้เราจมดิ่งลงไปในห้วงอารมณ์นั้นมากเกินไป การบริหารจัดการอารมณ์ในช่วงวิกฤตเปรียบเสมือนการเป็นกัปตันเรือที่กำลังแล่นผ่านพายุ – เราไม่อาจห้ามพายุ แต่เราสามารถบังคับเรือให้ผ่านพ้นไปได้

ตัวอย่างกิจกรรมเสริมสร้าง Self-Management:

  • การหายใจอย่างมีสติ – การฝึกหายใจลึกๆ อย่างช้าๆ สัก 5-10 นาที สามารถปรับสมดุลระบบประสาทและลดฮอร์โมนความเครียดได้อย่างเห็นผล (เปรียบเสมือนสมอเรือในยามที่พายุอารมณ์กำลังโหมกระหน่ำ)
  • เป้าหมายย่อยประจำวัน – สร้างชัยชนะเล็กๆ ด้วยการแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นก้าวย่อยๆ ที่จับต้องได้ แม้เพียงการลุกจากเตียง จัดโต๊ะทำงาน หรืออ่านหนังสือ 10 หน้า ความสำเร็จเล็กๆ เหล่านี้จะค่อยๆ สร้างแรงขับเคลื่อนและความเชื่อมั่นกลับคืนมา
  • ปรับเปลี่ยนบทสนทนาภายใน – เปลี่ยนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหัวให้เป็นเสียงให้กำลังใจตัวเอง แทนที่จะบอกว่า “ฉันทำไม่ได้เลย” ลองเปลี่ยนเป็น “ฉันกำลังเรียนรู้ทักษะใหม่ การเติบโตต้องใช้เวลา”

การมี Self-Management ยามที่เราต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง คือเครื่องมือสำคัญในการประคับประคองอารมณ์ตัวเอง ที่ช่วยเปลี่ยนช่วงเวลาที่หนักอึ้งให้กลายเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโตจากภายใน

เมื่อเราเริ่มผ่านพ้นห้วงแห่งความทุกข์และก้าวเข้าสู่ช่วง “ปรับตัว” หรือเริ่ม “ยอมรับความเปลี่ยนแปลง” แต่ละการตัดสินใจกลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะกำหนดว่าเราจะเดินหน้าสู่การเติบโตหรือถอยกลับไปสู่วังวนเดิม ทักษะการตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบจึงเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ชี้นำทิศทางสู่อนาคตที่เราปรารถนา

ตัวอย่างกิจกรรมเสริมสร้าง Responsible decision-making:

  • วิเคราะห์ทางเลือก Pros and Cons – การสร้างตารางวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียของแต่ละทางเลือกช่วยให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น ลองพิจารณาทั้งผลกระทบระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น เพื่อการตัดสินใจที่สมดุลและรอบคอบ
  • บทบาทสมมติ – การจำลองสถานการณ์ผ่านการเล่นบทบาทสมมติช่วยให้เราได้ลองประสบการณ์ก่อนเผชิญสถานการณ์จริง เป็นการซ้อมสำหรับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น และค้นพบวิธีรับมือที่เหมาะกับตัวเราเอง
  • เชื่อมโยงกับ Core Values – การตระหนักรู้ถึงค่านิยมหลักในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ หรือความเมตตา —การเห็นคุณค่าในตนเอง จะช่วยเป็นหลักยึดในการตัดสินใจ เมื่อใดที่เราต้องเลือก ให้ถามตัวเองว่า “ทางเลือกนี้สอดคล้องกับสิ่งที่ฉันให้ความสำคัญในชีวิตหรือไม่?”

การฝึกฝน Responsible decision-making ให้คิดไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ ไม่เพียงช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการถูกฉุดกลับไปสู่วังวนความทุกข์เดิม แต่ยังช่วยสร้างเส้นทางใหม่ที่นำไปสู่การเติบโต เมื่อเราตัดสินใจบนพื้นฐานของค่านิยมที่แท้จริง แม้เส้นทางอาจยากลำบาก แต่จิตใจเราจะมั่นคงเพราะรู้ว่ากำลังก้าวไปในทิศทางที่สอดคล้องกับตัวตนที่แท้จริงของเรา


การเข้าใจอารมณ์เป็นเพียงก้าวแรก แต่การมีทักษะ SEL จะทำให้เราก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง

  • Self-Awareness ทำให้เรารู้ว่าเรากำลังรู้สึกอะไร
  • Self-Management ช่วยให้เรารับมือกับอารมณ์เหล่านั้นได้
  • Responsible Decision-Making ทำให้เราเลือกเดินในทางที่ดีต่อใจในระยะยาว

เมื่อรวมกันแล้ว เราก็มี “แผนที่ทางใจ” ที่จะพาเราเดินผ่านความเปลี่ยนแปลงของ 7 สเตจอารมณ์เมื่อชีวิตเปลี่ยน ด้วยความเข้าใจ เห็นคุณค่า และมีพลัง


Sources

  1. Kübler-Ross Foundation. (n.d.). The Change Curve. Retrieved from: https://www.ekrfoundation.org/5-stages-of-grief/change-curve/
  2. Kübler-Ross Change Curve. Retrieved from: https://www.researchgate.net/figure/Kuebler-Ross-Change-Curve_fig3_345819452
  3. What is Kubler Ross Change Curve? Retrieved from:  https://www.humancapitalbuilders.nl/post/what-is-kubler-ross-change-curve
  4. CASEL. (n.d.). What is SEL? Retrieved from https://casel.org/what-is-sel/
  5. Panorama Education. (n.d.). Guide to SEL Competencies. Retrieved from https://www.panoramaed.com/blog/guide-to-core-sel-competencies
  6. Positive Action. (n.d.). The 5 SEL Core Competencies. Retrieved from https://www.positiveaction.net/blog/sel-competencies
Picture of Armer Khanachang

Armer Khanachang

Founder at SELminder,

Share to

Related Posts

บทความล่าสุด

คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต?

การอยู่กับปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่า “ห้ามคิดถึงอดีตหรืออนาคต” แต่หมายถึงการแยกแยะให้ชัดเจน ระหว่างด้านจิตใจ กับด้านปัญญา

7 โซน Body Scan

ถ้าเราสามารถรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เราก็จะสามารถจัดการกับอารมณ์และความคิดของเราได้ทันท่วงที

10 วิธีใจดีแบบมีขอบเขต

10 วิธีใจดีแบบมีขอบเขต ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “วิธีการ” ที่ใช้กับคนอื่น แต่เป็น “การฝึกฝน” ที่เริ่มต้นจากตัวเราเองก่อน