วิธีตั้งคำถามที่เชื่อมโยงความคิดและอารมณ์

วิธีตั้งคำถามที่เชื่อมโยงความคิดและอารมณ์


“การตั้งคำถามที่ดี ไม่ใช่แค่การถามเพื่อถาม แต่มันควรทำหน้าที่เป็นเสมือนบันไดที่ช่วยให้เราสามารถเดินทางลึกเข้าไปในจิตใจของผู้ถูกถาม เพื่อเชื่อมโยงความคิดและอารมณ์อย่างมีความหมายด้วย”

จากประสบการณ์ของผม “คำถามแต่ละคำถาม มีค่าน้ำหนักไม่เท่ากัน” บางคำถามเพียงช่วยให้ผู้ตอบแค่ระลึกถึงข้อมูลความจำ ขณะที่บางคำถามกลับสามารถเปิดพื้นที่ให้เกิดการคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในบริบทของ Social and Emotional Learning (SEL) คำถามที่ดีสามารถช่วยให้ผู้ตอบได้

  1. สะท้อนความรู้สึกของตนเอง (Self-Awareness)
  2. ควบคุมอารมณ์และการตอบสนอง (Self-Management)
  3. เข้าใจมุมมองของผู้อื่น (Social Awareness)
  4. สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้น (Relationship Skills)
  5. ฝึกทักษะการคิดอย่างมีเหตุผลและรับผิดชอบ (Responsible Decision-Making)

ดังนั้น การตั้งคำถาม อย่างมีโครงสร้างจึงเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยให้เราพัฒนา SEL ได้อย่างเป็นระบบ



แนวทางการตั้งคำถามตามกรอบ Bloom’s Taxonomy

เบนจามิน บลูม (Benjamin Bloom) นักจิตวิทยาการศึกษา ได้แบ่งพฤติกรรมการเรียนรู้ของมนุษย์ออกเป็น 6 ระดับของการคิด ซึ่ง ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ในห้องเรียน แต่ยังสามารถนำมาเป็นแนวทางในการ ตั้งคำถามที่ช่วยเสริม SEL ได้อีกด้วย

✨ Bloom’s Taxonomy ทำหน้าที่เป็น “โครงสร้างของคำถาม”
✨ SEL ทำหน้าที่เป็น “เป้าหมายของคำถาม”

เมื่อเราผสานสองแนวคิดนี้เข้าด้วยกัน เราจะสามารถสร้างคำถามที่ กระตุ้นให้ผู้ตอบสะท้อนอารมณ์ของตัวเอง เข้าใจผู้อื่น และคิดอย่างมีเหตุผล เรามาลองดูกันว่าแต่ละระดับของ Bloom’s Taxonomy สามารถนำมาใช้พัฒนา SEL ได้อย่างไร

เป็นระดับพื้นฐานที่สุดของการเรียนรู้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเรียกคืนข้อมูลหรือความทรงจำที่ผ่านมา —ประโยชน์ต่อ SEL ช่วยให้ผู้ถูกถามสามารถระบุอารมณ์ของตัวเองและผู้อื่นได้อย่างชัดเจนขึ้น

คีย์เวิร์ดในการถาม: อะไร (What), ใคร (Who), เมื่อไหร่ (When), ที่ไหน (Where), อย่างไร (How)*

ตัวอย่าง:

  • เมื่อวานคุณรู้สึกอย่างไร?
  • เหตุการณ์ใด ที่สร้างความประทับใจให้คุณที่สุด?
  • ใครเป็นบุคคลที่ทำให้คุณยิ้มได้ในวันที่ท้อแท้?

“สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?” ระดับเข้าใจมุ่งเน้นการแปลความ ตีความ หรือขยายความของสิ่งนั้นๆ —เมื่อนำมาใช้กับ SEL ผู้ถูกถามจะได้โอกาสในการอธิบายความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ในคำพูดในความเข้าใจของตัวเขาเอง

คีย์เวิร์ดในการถาม: ทำไม (Why), เพราะอะไร (Because), หมายความว่า (Mean)

ตัวอย่าง:

  • ทำไมคุณถึงรู้สึกกลัวเมื่อเจอสถานการณ์ใหม่ๆ?
  • ความสุขหมายความว่าอย่างไรสำหรับคุณ?
  • เพราะอะไรคุณถึงกระแทกโต๊ะอย่างแรงตอนที่โกรธ?

ระดับนี้ต้องอาศัยทั้งความรู้และความเข้าใจ เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงได้ —เมื่อนำมาใช้กับ SEL เราต้องการสำรวจว่าผู้ถูกถามมีวิธีจัดการอารมณ์ ความรู้สึก หรือพฤติกรรมของตนเองอย่างไร (คำตอบที่ได้อาจมาจากประสบการณ์ที่เคยเจอ หรือ ความรู้และความเข้าใจใหม่ ที่ได้รับจากการเรียนรู้)

คีย์เวิร์ดในการถาม: ถ้า (If), สมมติว่า (Suppose), นำไปใช้ (Use), ปรับใช้ (Use)

ตัวอย่าง:

  • ถ้ามีคนทำให้คุณโกรธ คุณจะจัดการอารมณ์ตัวเองอย่างไร?
  • สมมติว่าคุณมีปัญหากับเพื่อนสนิท คุณจะหาทางแก้ไขอย่างไร?
  • คุณจะนำความรู้ที่ได้จากวันนี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?

“อะไรคือเหตุและผล?” ระดับนี้เน้นการแยกแยะส่วนประกอบ และค้นหาความสัมพันธ์ของเหตุและผล เพื่อให้เข้าใจสิ่งต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งขึ้น —เมื่อนำมาใช้กับ SEL คำถามในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจที่มาและปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรม

คีย์เวิร์ดในการถาม: สาเหตุ (Cause), ผลกระทบ (Effect), เปรียบเทียบความแตกต่าง (Compare)

ตัวอย่าง:

  • อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณมีปฏิกิริยาทางอารมณ์แบบนี้?
  • การแสดงออกทางอารมณ์ของเราส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างอย่างไร?
  • เปรียบเทียบวิธีจัดการความเครียดของคุณกับของเพื่อน คุณเห็นความแตกต่างอย่างไร?

“อะไรคือทางเลือกที่ดีที่สุด?” ระดับนี้เน้นให้ผู้ถูกถามใช้เหตุผลและวิจารณญาณ ในการตัดสินคุณค่า และ ประเมินความเหมาะสมของอารมณ์ ความคิด หรือพฤติกรรม —เมื่อใช้ในบริบทของ SEL คำถามในระดับนี้ช่วยให้ผู้ถูกถามสะท้อนมุมมองของตนเองเกี่ยวกับ ความรู้สึก ค่านิยม และการตัดสินใจ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking)

คีย์เวิร์ดการถาม: เห็นด้วย (Agree), ไม่เห็นด้วย (Disagree), สำคัญ (Important)

ตัวอย่าง:

  • คุณเห็นด้วยกับการให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้อื่นหรือไม่? เพราะเหตุใด?
  • การให้อภัยเป็นสิ่งสำคัญหรือไม่? อธิบายเหตุผล
  • เป้าหมายชีวิตมีความสำคัญต่อความสุขอย่างไร?

“เราจะทำสิ่งใหม่ที่มีคุณค่าได้อย่างไร?” ระดับนี้เป็นขั้นตอนสูงสุดของการเรียนรู้ที่เน้นการสร้างแนวคิดใหม่ หรือออกแบบแนวทางใหม่ —เมื่อใช้กับ SEL คำถามในระดับนี้ช่วยให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบ และพัฒนาแนวทางเฉพาะตัวในการรับมือกับสถานการณ์ทางอารมณ์และสังคม

คีย์เวิร์ดการถาม: สร้าง (Create), ออกแบบ (Design), คิดค้น (Invent)

ตัวอย่าง:

  • คุณจะออกแบบวิธีจัดการกับอารมณ์ยากๆ ได้อย่างไร?
  • ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไร?
  • คุณจะคิดค้นวิธีใหม่ ๆ ในการรับมือกับความเครียดที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างไร?

1. ระดับความจำ (Remembering) → ใช้ถามเกี่ยวกับขั้นตอนหรือข้อมูลพื้นฐาน

🔹 “คุณจะอธิบายอารมณ์โกรธได้อย่างไร?”

2. ระดับเข้าใจ (Understanding) → ใช้ถามเกี่ยวกับความหมายหรือแนวคิด

🔹 “อารมณ์มีผลต่อการตัดสินใจของเราอย่างไร?”

3. ระดับนำไปใช้ (Applying) → ใช้ถามเกี่ยวกับการนำแนวคิดไปใช้ในสถานการณ์จริง

🔹 “คุณจะจัดการกับความเครียดของตัวเองอย่างไร?”

4. ระดับวิเคราะห์ (Analyzing) → ใช้ถามเกี่ยวกับเหตุและผลหรือการเปรียบเทียบ

🔹 “พฤติกรรมของคุณเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน?”

5. ระดับประเมิน (Evaluating) → ใช้ถามเกี่ยวกับการให้เหตุผลหรือการตัดสินใจ

🔹 “คุณจะตัดสินได้อย่างไรว่าควรให้อภัยใครสักคน?”

6. ระดับสร้างสรรค์ (Creating) → ใช้ถามเกี่ยวกับการออกแบบหรือคิดค้นแนวทางใหม่

🔹 “คุณจะคิดค้นวิธีใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างไร?”


การพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคม (SEL) เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจและความละเอียดอ่อน คำถามที่ดี สามารถช่วยเปิดพื้นที่ให้เกิดการไตร่ตรองตนเอง เชื่อมโยงความรู้สึก และพัฒนาความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. เริ่มต้นอย่างเป็นขั้นตอน

  • เริ่มจากคำถามง่าย ๆ ที่เน้นระดับ ความจำและความเข้าใจ
  • ค่อย ๆ เพิ่มความซับซ้อนของคำถามให้เหมาะสมกับระดับการคิด
  • สังเกตปฏิกิริยาของผู้ตอบ และปรับคำถามตามความเหมาะสม

ตัวอย่าง:
“วันนี้คุณรู้สึกอย่างไร?” → (ระดับความจำ)
“อะไรทำให้คุณรู้สึกแบบนี้?” → (ระดับเข้าใจ)
“คุณจะจัดการกับอารมณ์นี้อย่างไร?” → (ระดับนำไปใช้)

2. ปรับแต่งคำถามให้เหมาะสมกับบริบท

  • คำนึงถึงอายุและพัฒนาการของผู้ตอบ
  • สำหรับเด็กเล็ก → ใช้คำถามเกี่ยวกับอารมณ์พื้นฐาน เช่น “อะไรทำให้คุณมีความสุข?”
  • สำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ → ใช้คำถามที่กระตุ้นให้คิดลึกขึ้น เช่น “ความเครียดส่งผลต่อคุณอย่างไร?”

3. สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสนับสนุน

  • ส่งเสริม “พื้นที่ปลอดภัย” ที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่ถูกตัดสิน
  • ฟังอย่างเปิดใจ และให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้อื่น
  • ทำให้ผู้ตอบรู้สึกว่าความคิดและอารมณ์ของพวกเขามีคุณค่า

ตัวอย่าง:
หากเพื่อนกำลังรู้สึกเศร้า แทนที่จะพูด “อย่าคิดมาก” → ลองถาม “มีอะไรที่ฉันช่วยได้ไหม?”

4. ฝึกทักษะการฟังอย่างใส่ใจ

  • ฟังด้วยความตั้งใจ (Active Listening) โดยให้ความสนใจเต็มที่
  • พยายามเข้าใจมุมมองและอารมณ์ของผู้พูด
  • หลีกเลี่ยงการขัดจังหวะ หรือเร่งรีบให้คำแนะนำ

ตัวอย่าง:
เมื่อมีคนเล่าปัญหา อย่าตอบกลับทันที → ลองสะท้อนความรู้สึก “ฟังดูเหมือนคุณรู้สึกกังวลมากเลย”

5. ส่งเสริมกำลังใจและการสนับสนุน

  • ชื่นชมความพยายามในการสื่อสารอารมณ์ แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แบบ
  • ให้ความมั่นใจว่า “ไม่มีคำตอบที่ผิด” ทุกความรู้สึกมีคุณค่า
  • กระตุ้นให้ผู้เรียนกล้าพูดถึงอารมณ์ของตนเองโดยไม่ต้องกลัวการตัดสิน

ตัวอย่าง:
หากเขาไม่มั่นใจในการตอบ ลองพูด “ฉันชอบที่คุณพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเอง”

6. สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
  • หลีกเลี่ยงคำศัพท์ที่ซับซ้อน หรือคำถามที่กดดันให้ต้องตอบเร็ว
  • แสดงความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจในน้ำเสียงและภาษากาย

ตัวอย่าง:
แทนที่จะถาม “คุณคิดว่าการจัดการอารมณ์เชิงบวกมีความสำคัญอย่างไร?”
➡ ลองถาม “เมื่อคุณรู้สึกโกรธ อะไรช่วยให้คุณใจเย็นขึ้น?”


ดังนั้น “คำถามที่ดี” ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สะท้อนอารมณ์และพัฒนาทักษะ SEL โดยเริ่มจากคำถามง่าย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับความลึกซึ้ง สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย ให้ทุกคนกล้าพูดถึงความรู้สึกของตัวเอง ฝึกฟังอย่างใส่ใจ และให้กำลังใจเมื่อผู้อื่นแสดงออกทางอารมณ์ ใช้ภาษาที่เป็นมิตรและเข้าใจง่าย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสนทนาเชิงลึก

บทสรุป: การเดินทางแห่งการเรียนรู้

การพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคมเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความอดทน ความเข้าใจ และความมุ่งมั่น Bloom’s Taxonomy เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถสำรวจและเข้าใจตนเองและผู้อื่นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ผมเชียร์ให้คุณลองนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันดูนะครับ การตั้งคำถามที่มีความหมายนอกจากจะช่วยให้ผู้ถูกถามได้ตระหนักคิดแล้ว ยังช่วยให้เรา (ผู้ถาม) เกิดการเติบโต เรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

References
Revised Bloom’s Taxonomy – Question Starters. Retrieved from: https://facultycenter.ischool.syr.edu/wp-content/uploads/2015/10/Revised-Blooms-Questions-Starter.pdf

Lesson Planning using Bloom’s Taxonomy in my Math Classroom. Retrieved from: https://connectedtot.com/2020/07/08/lesson-planning-using-blooms-taxonomy-for-math/

Picture of Armer Khanachang

Armer Khanachang

Founder at SELminder,

Share to

Related Posts

บทความล่าสุด

16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ

16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ เหล่านี้ไม่ได้ต้องการให้คุณหาเวลาว่างเพิ่ม มันแค่ต้องการให้คุณกลับมาอยู่กับตนเองอย่างมีสติ (Mindfully) มากขึ้น

จะเป็นคนคิดบวกมากแค่ไหน ก็ยังไม่ใช่ Growth Mindset

บางครั้งการคิดบวก ก็เป็นสิ่งที่เราต้องการเพื่อฮีลใจ (เพื่อก้าวไปต่อไป) แต่บางครั้ง การเติบโตก็ต้องการให้เรานั่งอยู่กับความไม่สบายใจบ้าง

ที่ยังรู้สึกว่าชีวิตไม่มีเป้าหมาย อาจเป็นเพราะไม่เคยตั้งคำถาม..

เป้าหมายชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ต้องบังคับตัวเอง “ให้ต้องหาให้เจอ” แต่อาจคือสิ่งที่เราต้องค่อย ๆ “ตั้งคำถาม” แล้วคุยกับตัวเอง