16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ


ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปนั่งนิ่ง ๆ อยู่ริมทะเล รับความรู้สึกสัมผัสจากลมทะเล และมองดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า พลันความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในความรู้สึกว่า “เฮ้ย!! ความสุขง่าย ๆ แบบนี้.. มันหายไปจากชีวิตเราตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?”

จริงอยู่ที่ชีวิตประจำวันของเราถูกกำหนดด้วย “ภารกิจต่างๆ ที่ต้องทำ!” ไม่ว่าจะเป็นความเร่งรีบในงาน อีเมลที่ต้องตอบกลับ หรือ To-Do List ที่ต้องเคลียร์ในวันนั้นๆ (ที่ซึ่งไม่เคยสั้นลง 😭) เราพยายาม Multi-task ทำทุกอย่างพร้อมกัน (ด้วยความหวังว่ามันจะเสร็จเร็วขึ้น) แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ “ความล้า” ทั้งร่างกายและจิตใจ

จนกระทั่งในวินาทีที่เรา “ตระหนักรู้ทันตนเอง” (Self-awareness) นั่นแหละครับ ที่ซึ่งเราค้นพบความจริงที่เรียบง่ายว่า.. แท้จริงแล้ว! ความสุขไม่ได้รออยู่ที่ปลายทางเพียงอย่างเดียว แต่มันถูกซ่อนอยู่ใน “รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ” ที่เราเผลอมองข้ามไประหว่างทางในแต่ละวันต่างหาก

นี่จึงเป็นที่มาของบทความนี้ 16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ ที่กลั่นกรองจากหลักการ #การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (Social and Emotional Learning หรือ SEL) และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผมมั่นใจว่าทั้ง 16 วิธีนี้จะช่วยเป็นเหมือน “จุดแวะพัก” ให้เราได้กลับมารู้ตัวและสัมผัส “ความสงบในใจ” ได้อีกครั้ง — ไม่ว่าโลกภายนอกจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตามครับ


16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ

ก่อนเปิดอีเมลหรือจับโทรศัพท์ ให้ลองหายใจเข้าลึกออกยาว 3 ครั้ง เพื่อนำจิตใจที่ล่องลอยกลับมาสู่ปัจจุบัน
– งานวิจัยของ Harvard University โดย Killingsworth และ Gilbert ในปี 2010 ซึ่งค้นพบว่าสมองของเรามีแนวโน้มจะ “คิดฟุ้งซ่าน” ถึง 47% ของเวลา การฝึกสติช่วยนำจิตใจกลับมาอยู่กับปัจจุบัน และส่งผลให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด

เขียนหรือทบทวนสิ่งดีๆ อย่างน้อย 1 อย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ – การฝึก “gratitude” อย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มความพึงพอใจในชีวิต (Emmons & McCullough, 2003)

เพียง 5 วินาที ของการสบตาพร้อมรอยยิ้มกับเพื่อนร่วมงานสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของทั้งสองฝ่ายให้ดีขึ้นได้ทันที เป็นการสร้างความผูกพัน (Human Connection) ที่เรียบง่ายที่สุด

เมื่อมีใครพูดคุยกับคุณ ลองฝึก “ฟังจริงๆ” โดยไม่ขัดจังหวะหรือรีบคิดคำตอบ – การฝึกฟังเชิงลึก (Active Listening) คือทักษะสำคัญของ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) เมื่อคนอื่นรู้สึกว่าเราฟังพวกเขาอย่างตั้งใจ พวกเขาจะรู้สึกมีคุณค่าและเปิดใจมากขึ้น


แทนที่จะตำหนิว่า “ฉันพลาดอีกแล้ว” ลองเปลี่ยนเป็น “ฉันพยายามเต็มที่แล้วนะ” – งานวิจัยของ Kristin Neff เกี่ยวกับทฤษฎีความเมตตาต่อตนเอง (Self-Compassion Theory) แสดงให้เห็นว่าความเมตตาต่อตนเองไม่ได้ทำให้เราอ่อนแอหรือหยุดพัฒนา แต่กลับช่วยลดความเครียดและเพิ่มแรงจูงใจได้จริง เพราะเมื่อเราไม่ต้องใช้พลังงานไปกับการตำหนิตัวเอง เราจะมีพลังมากขึ้นในการพัฒนาตัวเองต่อไป

อาจเป็นต้นไม้เล็กๆ หรือภาพคนที่คุณรัก สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ที่เชื่อมโยงกับความหมายในชีวิตจะเป็นเหมือนจุดยึดเหนี่ยวทางอารมณ์ในวันที่ยากลำบาก

Multi-tasking ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นทักษะที่ดี – งานวิจัยจาก Stanford University ในปี 2009 กลับแสดงให้เห็นว่าการทำหลายอย่างพร้อมกันทำให้สมองเหนื่อยและลดประสิทธิภาพการทำงาน ลองเลือก “ทำทีละอย่าง” แล้วคุณจะรู้สึกถึงความสมบูรณ์และคุณภาพของงานที่เพิ่มขึ้น

ไม่ต้องนั่งสมาธิอย่างเป็นทางการ แค่ปิดเสียงแจ้งเตือนทั้งหมด นั่งนิ่งๆ สักห้านาที แล้วรู้สึกถึง “การได้อยู่กับตัวเอง” – ในยุคที่เราถูกรบกวนตลอดเวลา ความเงียบกลับกลายเป็นสิ่งที่หาได้ยาก แต่มันคือสิ่งที่จิตใจของเราต้องการอย่างแท้จริง


แนะนำให้เป็นกิจกรรมง่ายๆ (แบบง่ายที่สุด) เช่น แหงนหน้ามองท้องฟ้า มองต้นไม้ หรือเพียงแค่นั่งมองพระอาทิตย์ตกดิน เป้าหมายคือ ไม่คิดกังวลอดีต, ไม่ฟุ้งซ่านอนาคต, ไม่เร่งรีบ, หรือหยิบโทรศัพท์

เป็นการฝึกที่สามารถทำได้ง่ายในชีวิตประจำวัน แทนที่จะรีบเดินจากห้องประชุมไปโต๊ะทำงาน ลองเดินอย่างรู้ตัว รู้สึกถึงการสัมผัสเท้ากับพื้น – งานวิจัยด้าน Mindfulness (Kabat-Zinn, 2003) พบว่าการเดินอย่างมีสติช่วยลดความตึงเครียดของระบบประสาทได้

แม้แค่ใช้เวลาสั้นๆ กลางวันเดินไปเติมน้ำหรือมองออกนอกหน้าต่าง ก็ช่วยลดความล้าของสายตาและสมอง พร้อมทั้งเพิ่มสมาธิได้อย่างเห็นได้ชัด

บทความจาก The Standard ได้เรียบเรียงข้อมูลเกี่ยวคลื่นเสียงในแต่ละช่วงความถี่ ว่ามีความสัมพันธ์กับการทำงานของสมองอย่างไร ดังนี้
– คลื่นเดลต้า (Delta) 1-4 Hz เกี่ยวข้องกับการนอนหลับลึกและการพักผ่อน
– คลื่นเธต้า (Theta) 4-8 Hz เชื่อมโยงกับการนอนหลับแบบ REM ลดความวิตกกังวล การผ่อนคลาย รวมถึงภาวะสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ 
– คลื่นอัลฟ่า (Alpha) 8-13 Hz ส่งเสริมการผ่อนคลาย เพิ่มความคิดในแง่บวก ลดความวิตกกังวล
– คลื่นเบต้า (Beta) ความถี่ต่ำ 14-30 Hz เกี่ยวข้องกับสมาธิ ความกระตือรือร้น การแก้ปัญหา ความจำที่ดีขึ้น
– Binaural Beats 40 Hz พบว่ามีประโยชน์ในการเพิ่มการฝึกฝนและการเรียนรู้

ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยหลายชิ้น งานวิจัยในปี 2007 ให้ผู้ใหญ่ 8 คนฟังซีดีที่มีคลื่น Binaural Beats ความถี่เดลต้า (1-4 Hz) ติดต่อกันนาน 60 วัน พบว่าความวิตกกังวลของพวกเขาลดลงอย่างมาก หรืองานวิจัยของ Thoma และคณะในปี 2013 พบว่าดนตรีมีผลต่อระบบประสาทและสารเคมีในสมองของเรา


อาจเป็นการช่วยถือของ หรือส่งข้อความให้กำลังใจ – งานวิจัยจาก University of British Columbia (2008) พบว่า “การให้” ทำให้สมองหลั่งสารโดพามีนคล้ายตอนเรารู้สึกมีความสุขจากการได้รับ

เป็นการฝึกที่ช่วยให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์ ลองถามตัวเองว่า “วันนี้ฉันเรียนรู้อะไรจากชีวิต” นี่เป็นการฝึก Responsible Decision-Making ในกรอบของ SEL (Social and Emotional Learning) เพราะความสุขที่ยั่งยืนเกิดจากการเรียนรู้และเติบโตภายในอย่างต่อเนื่อง

การยอมรับว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือ” ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ แต่คือการแสดงถึงความฉลาดทางอารมณ์และความเข้าใจตนเอง มันคือการยอมรับข้อจำกัดของมนุษย์และการเปิดใจรับการเรียนรู้

ความสุขไม่ได้มาจากการเป็น “ดีกว่าใคร” แต่จากการเป็น “ดีกว่าตัวเองเมื่อวาน” นี่คือการแข่งขันกับตัวเองในแบบที่สร้างสรรค์และให้กำลังใจ


บทสรุป

ทั้ง 16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ เหล่านี้ไม่ได้ต้องการให้คุณหาเวลาว่างเพิ่ม มันแค่ต้องการให้คุณกลับมาอยู่กับตนเองอย่างมีสติ (Mindfully) มากขึ้นเท่านั้นเอง อย่างที่ผมย้ำอยู่เสมอว่า ทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) การจัดการตนเอง (Self-management) การเข้าใจผู้อื่น (Empathy) ,หรือการตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Decision-Making) ไม่ได้ “ได้มา” จากการอ่าน แต่มาจากการลงมือทำซ้ำ ๆ ในกิจวัตรที่เล็กที่สุดในแต่ละวัน

ดังนั้น ไม่ต้องรอให้วันหยุดมาถึง ไม่ต้องรอให้งานเสร็จสมบูรณ์… คุณสามารถเลือก “มีความสุขกับเรื่องง่ายๆ ” ได้ตั้งแต่วินาทีนี้เลยครับ

Picture of Armer Khanachang

Armer Khanachang

Founder at SELminder,

Share to

Related Posts

บทความล่าสุด

16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ

16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ เหล่านี้ไม่ได้ต้องการให้คุณหาเวลาว่างเพิ่ม มันแค่ต้องการให้คุณกลับมาอยู่กับตนเองอย่างมีสติ (Mindfully) มากขึ้น

จะเป็นคนคิดบวกมากแค่ไหน ก็ยังไม่ใช่ Growth Mindset

บางครั้งการคิดบวก ก็เป็นสิ่งที่เราต้องการเพื่อฮีลใจ (เพื่อก้าวไปต่อไป) แต่บางครั้ง การเติบโตก็ต้องการให้เรานั่งอยู่กับความไม่สบายใจบ้าง

ที่ยังรู้สึกว่าชีวิตไม่มีเป้าหมาย อาจเป็นเพราะไม่เคยตั้งคำถาม..

เป้าหมายชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ต้องบังคับตัวเอง “ให้ต้องหาให้เจอ” แต่อาจคือสิ่งที่เราต้องค่อย ๆ “ตั้งคำถาม” แล้วคุยกับตัวเอง