แผนภูมิ 4 โหมดอารมณ์



เมื่อมีอารมณ์ความรู้สึก (รุนแรง) เกิดขึ้น เช่น ความเครียด ความโกรธ.. สิ่งแรกที่เรามักเลือกทำคืออะไรครับ? บางคนเลือกหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนดูโซเชียลมีเดีย บางคนเล่นเกม หรือบางคนอาจเลือกดื่มเหล้า สูบบุหรี่

คำถามที่ผมสนใจ คือ วิธีแก้เหล่านี้ให้ผลลัพธ์เชิงบวกกับเราจริงหรือ?

บทความนี้ ผมอยากชวนคุยเรื่องอารมณ์ความรู้สึกผ่านแผนภูมิสี่ส่วนนี้ รวมถึงวิธีที่เราสามารถฝึกการตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) เพื่อบริหารการจัดการตนเอง (Self-management) เชิงบวก


ทำไมอารมณ์ถึงสำคัญ?

เพราะอารมณ์เป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตของเรา แม้เราจะแสร้งทำเป็นว่ามันไม่สำคัญก็ตาม และอารมณ์ยังส่งผลกระทบต่อ:

  • วิธีคิดของเรา
  • วิธีที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่น
  • วิธีที่เราตัดสินใจ
  • วิธีที่เราเรียนรู้และเติบโต

การเรียนรู้ที่จะรับรู้และจัดการกับอารมณ์เรียกว่า การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (Social Emotional Learning: SEL) จากการศึกษาวิจัยของ CASEL และ Yale’s Center for Emotional Intelligence พบว่า SEL ช่วยพัฒนาผลการเรียน ความสัมพันธ์ สุขภาพจิต และความพึงพอใจในชีวิตของเราได้ พูดง่ายๆ คือ หลักการทั้ง 5 ตัวของ SEL ช่วยให้เรามีความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งส่งผลไปสู่ความฉลาดในการใช้ชีวิตด้วย


แผนภูมิ 4 โหมดอารมณ์ : คู่มือจัดการใจให้ชีวิตสมดุล

แผนภูมิอารมณ์นี้จำแนกอารมณ์ออกเป็น 2 ปัจจัยหลัก:

  • ระดับพลังงาน (สูง/ต่ำ)
  • สภาวะทางอารมณ์ (ความพอใจ/ความไม่พอใจ)

อารมณ์ที่เกิดขึ้น: โกรธ หงุดหงิด เครียด

สิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกาย: คุณกำลังเข้าสู่โหมด “สู้หรือหนี” มีพลังงานล้นเหลือแต่ไม่ใช่ในทางที่ดี

วิธีจัดการที่เหมาะสม:

  • หยุดและหายใจเข้า-ออกลึกๆ การหายใจลึกจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • ลองใช้วิธี 4-7-8: หายใจเข้า 4 วินาที กลั้นไว้ 7 วินาที หายใจออก 8 วินาที
  • เดินเล่น ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น หรือออกกำลังกายเบาๆ เพื่อระบายพลังงานอย่างปลอดภัย

นี่เป็นจุดที่อาจเกิดอารมณ์รุนแรงได้ง่าย ถ้าคุณไม่ฝึกเว้นระยะห่างระหว่างความรู้สึกกับการกระทำ

อารมณ์ที่เกิดขึ้น: ตื่นเต้น ได้รับแรงบันดาลใจ อยากรู้อยากเห็น

สิ่งที่เกิดขึ้น: คุณเต็มไปด้วยความคิด แรงจูงใจ และพลังงานด้านบวก นี่คือช่วงเวลาที่สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น

วิธีใช้ประโยชน์:

  • เขียนไดอารี่หรือเริ่มโปรเจกต์ใหม่
  • แบ่งปันไอเดียของคุณให้คนอื่นฟัง
  • ใช้พลังงานที่มีเพื่อลงมือทำ: เขียน สร้าง หรือสำรวจสิ่งใหม่ๆ

อารมณ์เหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องยนต์ อย่าปล่อยให้ประกายไฟดับไป แต่จงใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อารมณ์ที่เกิดขึ้น: เศร้า เหงา หมดแรงบันดาลใจ

สิ่งที่เกิดขึ้น: คุณกำลังอยู่ในช่วงซบเซา พลังงานต่ำ และทุกอย่างดูหนักอึ้งไปหมด

วิธีจัดการตนเองอย่างเห็นอกเห็นใจ:

  • ยอมรับความรู้สึก: “ตอนนี้ฉันรู้สึกเศร้า และมันไม่เป็นไร”
  • ฝึกสติหรือใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบๆ
  • พูดคุยกับเพื่อนหรือนักบำบัด
  • ขยับร่างกายเบาๆ เช่น ยืดเหยียดหรือเล่นโยคะ เพื่อช่วยยกระดับอารมณ์

ทำไมถึงสำคัญ: เรามักจะพยายามหลีกหนีอารมณ์เหล่านี้ แต่การเผชิญหน้ากับมันด้วยความเห็นอกเห็นใจจะช่วยให้เราเยียวยาได้

อารมณ์ที่เกิดขึ้น: สงบ ผ่อนคลาย ซาบซึ้ง

สิ่งที่เกิดขึ้น: คุณรู้สึกสงบสุข ไม่มีเรื่องเร่งด่วนหรือความตึงเครียด มีเพียงความสงบนิ่ง

วิธีรักษาช่วงเวลานี้:

  • ปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ อย่ารีบหาอะไรทำ
  • ใช้เวลาทบทวนตัวเองหรือแค่รับรู้ถึงปัจจุบันขณะ
  • ฝึกการขอบคุณ เขียน 3 สิ่งที่คุณรู้สึกซาบซึ้ง

เหตุผลที่สำคัญ: อารมณ์เหล่านี้ช่วยฟื้นฟูจิตใจและร่างกาย อย่ามองข้ามการพักผ่อนเพราะมันมีประโยชน์ในแบบของมันเอง



วิธีประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

ลองเริ่มด้วย 4 ขั้นตอนง่ายๆ นี้:

1. ตั้งชื่ออารมณ์ (Name it) ถามตัวเอง: “ตอนนี้ฉันรู้สึกอะไรอยู่?”

2. ระบุตำแหน่ง (Locate it) อารมณ์นี้อยู่จุดไหนบนแผนภูมิ? พลังงานสูงหรือต่ำ? พอใจหรือไม่พอใจ?

3. ตอบสนอง (Respond) ลองทำตามคำแนะนำที่อยู่ในส่วนนั้น (หายใจ สร้างสรรค์ ใคร่ครวญ หรือ พักผ่อน)

4. สะท้อนคิด (Reflect) อะไรช่วยให้ดีขึ้น? อะไรไม่ได้ผล?

ลองทำแบบนี้ทุกวันหรือเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกไม่สบายใจ ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำ


มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับไหม?

แน่นอนครับ นี่ไม่ใช่ข้อมูลเพ้อเจ้อ/หรือผมคิดขึ้นมาเองนะครับ แต่มันมีงานวิจัยรองรับ:

  • แผนภูมิได้รับแรงบันดาลใจจาก Mood Meter ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด RULER จาก Yale’s Center for Emotional Intelligence
  • สอดคล้องกับ Circumplex Model of Affect ของ James Russell ที่จำแนกอารมณ์ตามระดับความตื่นตัว (พลังงาน) และความสุขสบาย (ความพอใจ)
  • CASEL ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำด้านการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (SEL) สนับสนุนเครื่องมือที่ช่วยสร้างการตระหนักรู้ในตนเอง, การจัดการตนเอง และการตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกรอบการทำงานของแผนภูมิ


ความเชื่อมโยงกับ SEL

  1. การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness)
    • แผนภูมินี้สนับสนุนให้ผู้คนระบุและตั้งชื่ออารมณ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานของ SEL
    • อารมณ์ต่างๆ เช่น “โกรธ” “เศร้า” “อยากรู้อยากเห็น” และ “ซาบซึ้ง” ถูกจัดวางตามระดับพลังงาน (สูง/ต่ำ) และสภาวะทางอารมณ์ (ความพอใจ/ความไม่พอใจ) ซึ่งช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
  2. การจัดการตนเอง (Self-management)
    • แผนภูมินี้สามารถใช้กลยุทธ์การจัดการอารมณ์ที่ชัดเจน ช่วยให้เราตอบสนองอย่างเหมาะสมแทนที่จะเป็นการตอบสนองแบบฉับพลัน:
      • หายใจBREATHE สำหรับอารมณ์ไม่สบายใจที่มีพลังงานสูง (เช่น เครียด, โกรธ)
      • ใคร่ครวญMEDITATE” สำหรับอารมณ์ไม่สบายใจที่มีพลังงานต่ำ (เช่น เศร้า, เหงา)
      • สร้างสรรค์CREATE” สำหรับอารมณ์สุขสบายที่มีพลังงานสูง (เช่น มีแรงบันดาลใจ, ตื่นเต้น)
      • พักผ่อนREST” สำหรับอารมณ์สุขสบายที่มีพลังงานต่ำ (เช่น สงบ, ผ่อนคลาย)
  3. การตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ (Responsible decision-making)
    • การทำความเข้าใจว่าพลังงานและอารมณ์ส่งผลต่อการคิดและพฤติกรรมอย่างไร จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น
    • การส่งเสริมให้ตอบสนองอย่างเหมาะสมต่อสภาวะอารมณ์ที่แตกต่างกัน จะช่วยให้เราไตร่ตรองและลงมือทำอย่างมีเจตนามากขึ้น

บทสรุปส่งท้าย

การเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เพียงแค่เริ่มต้นด้วยการรู้จักและเข้าใจอารมณ์ของตัวเองผ่านแผนภูมินี้ แล้วใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีสุขภาพจิตที่ดีมากขึ้น

จำไว้ว่า อารมณ์ทุกอย่างมีคุณค่า สิ่งสำคัญคือเราจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและใช้ประโยชน์จากมันอย่างไร


Footnotes:

Durlak, J. A., Weissberg, R. P., Dymnicki, A. B., Taylor, R. D., & Schellinger, K. B. (2011). The impact of enhancing students’ social and emotional learning: A meta-analysis of school-based universal interventions. Child Development, 82(1), 405–432. https://doi.org/10.1111/j.1467-8624.2010.01564.x

Brackett, M. A. (2019). Permission to feel: Unlocking the power of emotions to help our kids, ourselves, and our society thrive. Celadon Books.


Yale Center for Emotional Intelligence. (n.d.). Mood Meter. https://www.ycei.org/mood-meter

Picture of Armer Khanachang

Armer Khanachang

Founder at SELminder,

Share to

Related Posts

บทความล่าสุด

16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ

16 วิธีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ เหล่านี้ไม่ได้ต้องการให้คุณหาเวลาว่างเพิ่ม มันแค่ต้องการให้คุณกลับมาอยู่กับตนเองอย่างมีสติ (Mindfully) มากขึ้น

จะเป็นคนคิดบวกมากแค่ไหน ก็ยังไม่ใช่ Growth Mindset

บางครั้งการคิดบวก ก็เป็นสิ่งที่เราต้องการเพื่อฮีลใจ (เพื่อก้าวไปต่อไป) แต่บางครั้ง การเติบโตก็ต้องการให้เรานั่งอยู่กับความไม่สบายใจบ้าง

ที่ยังรู้สึกว่าชีวิตไม่มีเป้าหมาย อาจเป็นเพราะไม่เคยตั้งคำถาม..

เป้าหมายชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ต้องบังคับตัวเอง “ให้ต้องหาให้เจอ” แต่อาจคือสิ่งที่เราต้องค่อย ๆ “ตั้งคำถาม” แล้วคุยกับตัวเอง